ได้ยินเสียงใครที่พร่ำบอก
ในยามที่เราไร้ทางออก
หากมีใครมาส่งสุ้มเสียงที่ห่างไกล
จะยอมเดินตามไป
ได้มองเห็นทางแม้เลือนราง
ท่ามกลางความทรงจำที่ยังไม่จาง
หากมีใครมาทำให้เห็นในสิ่งใดที่ไม่รู้
จะขอดู
หมดเวลาคร่ำครวญระทมตรมใจ
แค่ไปขออ้อนวอนบางสิ่ง
ที่เธอนั้นได้ยืดถือ
ดอกไม้ในมือ ประทานไป
สวดวิงวอนขอให้
เหล่าท่านทั้งปวงช่วยพวกเราที
ได้โปรดยื่นมือคู่นี้
พาฉันไป สู่ดินแดนนิรันดร์
หากฉันจะขอให้ชีวิตนั้น
หมดทุกข์และเศร้าโศก
ต้องทำเช่นไรจะลอง ทุกทางที่มี
หากจะต้องทำพิธีกรรม
ปลดปล่อย อัญเชิญอะไรฉันก็ยอม
Wi lu deja fu-ne-xis
Fe harma thri-re-qua
Da kosa je-hak-ma
Lu ba tun de-tu-xa
Fi lemor hwe ja de
Ta khe ube ri a
Nu ronteh ja fi he
ใช่สิ ฉันก็เป็นแค่ตราบาป
เป็นแม่มดให้เธอสาป
ยังวกวนและรอวันที่ฉันจะสลายไป
คงไม่มีทวยเทพใด
มาประทานให้พ้นภัย
ในที่สุดก็ไร้ซึ่งทางหนี
จะปิดตาลงนอนและอยู่ในฝัน
สุดท้ายแม้ไม่เห็นด้วยตา
เป็นแค่คำนินทา
แต่ก็พร้อมจะเชื่อมัน
ดั่งตัวตนที่เราสร้างขึ้นมา
คำโกหกเป็นดั่งคำหวาน
คงจะมีความจริงที่ซ่อนข้างใน
คงเป็นความงมงายและความโง่เขลา
ทำให้เราคิดและสงสัย
ก่อนค้นหาคำ อธิบาย
คำใดๆ ที่เคยได้มอบฝากไว้
กลายเป็นเพียงตัวเราเป็นเงาสะท้อน
มันไม่มีอะไรข้างใน
อย่างที่คิดเลย
ก็หมดเวลาคร่ำครวญระทมตรมใจ
แค่ไปขออ้อนวอนบางสิ่ง
เป็นตัวเราเองมิใช่หรือ
คงต้องกล้ำกลืน ตลอดไป
สวดวิงวอนขอให้
เหล่าท่านทั้งปวงช่วยพวกเราที
ได้โปรดยื่นมือคู่นี้
พาฉันไป สู่ดินแดนนิรันดร์
หากฉันจะขอให้ชีวิตไม่ผิดหวัง
ได้หรือเปล่า
ต้องทำเช่นไรจะลอง ทุกทางที่มี
ต่อจากวันนี้ขอเอาคืน
อย่างที่มันเคยได้ทำกับฉันไว้
ความจริงมันไม่มีสิ่งใดที่เราบูชา
มีแต่แก้แค้นและสั่งลา
ต้องเห็นด้วยตาแล้วจุดไฟ
Hwer os mald kradez
สวดวิงวอนขอให้
เหล่าท่านทั้งปวงช่วยพวกเราที
เพราะเราไม่ต่างกันเท่าไหร่
หากฉันจะขอให้เธอ
เห็นความจริงนั้นมันชัดเจน
ถ้าเธอลองมองย้อนดูคงเห็น
ใช่หรือเปล่า
ไม่เหมือนข่าว
ที่ขานกล่าว
มาร่วมร่ำร้องเต้นรำให้ค่ำคืนนี้
ได้หรือเปล่า
ใต้แสงดาว
แค่ชั่วคราว
ก่อนความมืดมิดที่มีจะหายเลือนไป
จนกว่าสุ้มเสียงเพลงจบลง